โพสต์โดย: joktar-lejachanel
เปิดประเด็นแบบจกตา:
โอ้ยแม่! ทุกวันนี้โทรศัพท์ยังหายไปในกระเป๋าเสื้อชั้นในเลย แล้วแบบนี้กระเป๋านักเรียนจะซ่อนไรได้บ้าง? ครูจะค้นเจอมั้ย หรือเจอใจเด็กที่สั่นระรัวเหมือนมือถือโดนแย่ง!
เรื่องมันไม่ได้ตลกนะเธอ แต่เราจะเล่าให้มันฮา (แล้วค่อยจิกใจทีหลัง)
อ้างอิงบทความจากเว็บไซต์ maribor24.si
หัวข้อหลัก: "โทรศัพท์มือถือไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ปัญหาคือบุคลากรและการเรียนแบบต่อเนื่อง"
1. การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย
รัฐบาลเสนอการแก้ไขกฎหมายโรงเรียนประถม โดยจะเริ่มมีผลในเดือนกันยายน หากได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาในเดือนมิถุนายน
จุดเด่นของการเปลี่ยนแปลง:
นักเรียนจะใช้มือถือได้เฉพาะเมื่อได้รับอนุญาตจากครู
ครูสามารถตรวจค้นกระเป๋าหรือสิ่งของส่วนตัวของนักเรียนได้หากสงสัยว่ามีสิ่งต้องห้าม
นักเรียนที่ก่อกวนหรือเป็นอันตรายจะสามารถถูกให้ออกจากห้องเรียนได้
ภายใน 3 ปี จะมีการเพิ่มวิชา "สารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัล" เป็นวิชาบังคับ
2. โทรศัพท์มือถือในโรงเรียน
หลายโรงเรียนมีข้อห้ามใช้มือถืออยู่แล้ว เช่น โรงเรียน OŠ Malečnik ที่มีนโยบายชัดเจนและเคยยึดโทรศัพท์แล้วคืนให้ผู้ปกครอง
การเปลี่ยนแปลงนี้จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่จะถูกบัญญัติไว้ในกฎหมายอย่างเป็นทางการ
3. ตัวอย่างจากประเทศฟินแลนด์
ฟินแลนด์ได้ออกกฎหมายลักษณะเดียวกันเมื่อเดือนก่อน เพื่อทำให้โรงเรียนเป็นสถานที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการเรียนรู้
4. ปัญหาด้านบุคลากร
การหาครูสอนวิชาคอมพิวเตอร์/เทคโนโลยีเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะในโรงเรียนเล็ก เช่น OŠ Malečnik ที่มีเพียง 210 นักเรียน
ครูหนึ่งคนต้องสอนหลายวิชา และวิชาเทคโนโลยีมักไม่ได้รับความสำคัญ
บางโรงเรียนเริ่มหาครูล่วงหน้าไปถึงปี 2026–2027 แล้ว
ปัญหาอีกด้านคือจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ในห้องเรียนไม่พอกับจำนวนนักเรียน
5. ปัญหาเกี่ยวกับการเรียนแบบ "แคมเปญ" (kampanjsko učenje)
นักเรียนมักเรียนเฉพาะช่วงก่อนสอบ ทำให้เครียดและขาดความเข้าใจต่อเนื่อง
ผู้บริหารโรงเรียนเสนอว่าควรมีการอัปเดตระบบการให้คะแนนและส่งเสริมการประเมินผลแบบต่อเนื่องมากกว่าที่เป็นอยู่
จัดให้เลยจ้า! บทความนี้จัดเต็มสไตล์ "ชะนีจกตา x เลยาชาแนล" แซ่บ มันส์ ฮา มีสาระ อ่านเพลิน อ่านแล้วอยากแชร์! ใช้ชื่อโพสต์ว่า:
"ค้นกระเป๋าเด็กคือเรื่องใหญ่ ไม่ใช่แค่หาโทรศัพท์ แต่ใจเด็กมันพังนะครู!
ค้นกระเป๋าเด็ก = ครูห่วง หรือครูล้ำเส้น?
เข้าใจแหละว่าครูหลายคนก็อยากเซฟความปลอดภัยในโรงเรียน อยากรู้ว่าเด็กพกมือถือมามั้ย มีขนมขบเคี้ยวในห้องรึเปล่า หรือจะซ่อน “คัตเตอร์” เอาไปกรีดใจเพื่อน...
แต่เดี๋ยว ๆ ๆ ! ใจเย็นนะคะครูขา
การค้นกระเป๋านักเรียน ไม่ใช่เรื่องจะลุกขึ้นมาทำแบบนางเอกละครหลังข่าวที่อยากหาความจริงแล้วฟาดไฟล์ทหน้าชั้นเรียน!
แล้วประเทศอื่นเค้าทำไงกัน? เอามาแฉ!
อังกฤษ: เค้าก็มีกฎหมายชัดเลยค่ะว่าครู “ค้นได้” ถ้ามีเหตุสมควร เช่น เด็กอาจพกยา อาวุธ หรือของผิดกฎ
→ แต่ต้องมีเหตุผล ไม่ใช่นึกจะค้นก็ค้น ต้องมีพยาน ไม่ทำเด็กอับอาย
อเมริกา: ก็คล้ายกันเลยค่ะ "reasonable suspicion" คือถ้ามีเหตุสงสัย ก็ขอค้นได้
→ แต่ถ้าล้ำลึกไปถึงของส่วนตัว หรือดูเหมือนล่วงละเมิด เด็กมีสิทธิฟ้องกลับได้นะจ๊ะ
ญี่ปุ่น & จีน: มีกฎที่โรงเรียนค่อนข้างเข้ม แต่มักทำอย่างสุภาพ และมักแจ้งล่วงหน้า ไม่ใช้กำลังหรือละเมิดสิทธิเด็กแบบแอบ ๆ
“โทรศัพท์” ของต้องห้ามจริงไหม?
หลายโรงเรียนห้ามพกโทรศัพท์!
โอ๊ย เข้าใจค่ะ กลัวเด็กแอบเล่น กด Tiktok ตอนเรียน หรือแชตหาผู้ชายตอนครูสอนคณิต
แต่รู้มั้ย? การห้ามแบบไม่เข้าใจ อาจทำให้เด็ก...แอบเก่งขึ้น!
แอบซ่อนไว้ในถุงผ้าในถุงอีกที
ตั้ง passcode ซ้อน passcode ซะยิ่งกว่าคลังลับรัฐบาล
หรือบางคนก็เอาเครื่องสำรองมาให้ครูยึด ส่วนอีกเครื่องใช้จริงซ่อนที่ขอบยกทรง!
สรุป: ไม่ใช่ทุกคนที่ใช้โทรศัพท์ในทางไม่ดี บางคนใช้เรียน ใช้ติดต่อพ่อแม่ตอนเลิกเรียน ใช้หาทางกลับบ้าน ไม่ใช่แค่เล่นเกมนะเธอ
ค้นกระเป๋า = ทำลายใจเด็กถ้าไม่มีขอบเขต
บางคนพอเจอของผิดก็จับได้คาหนังคาเขา
แต่...บางคนแค่พกของเล่นเล็ก ๆ หรือจดหมายจากแฟน แล้วโดนครูหยิบโชว์หน้าห้อง โอ๊ย! อับอายไปถึงชาติหน้า
ใจเด็กแตกเป็นล้านเสี้ยวแล้วแม่!
แถมเด็กบางคนเริ่มไม่ไว้ใจ ไม่กล้าเอาความลับมาปรึกษาครูอีกเลย เพราะเคยถูกละเมิดในนามของ “ความปลอดภัย”
ข้อเสนอจากเลยาชาแนล
1. จะค้น ต้องมีเหตุ ไม่ใช่สุ่มเดา เพราะเด็กหิ้วกระเป๋าเหมือนมีความผิดติดตัว
2. ให้เด็กอยู่ในที่ปลอดภัย ไม่ทำให้รู้สึกว่าถูกประจาน
3. ถ้าพบมือถือ คุยก่อน ไม่ฟาดก่อน เพราะไม่ใช่เด็กทุกคนที่ใช้ผิดวัตถุประสงค์
4. สร้างระบบความเชื่อใจมากกว่าระบบจับผิด
> “การค้นกระเป๋าอาจป้องกันเด็กพกโทรศัพท์ แต่ป้องกันใจเด็กแตกไม่ได้ ถ้าไร้หลักการ”
อยากได้เด็กที่กล้าเรียน กล้าคิด กล้าปรึกษา อย่าทำให้เค้ารู้สึกว่าโรงเรียนคือสนามสอบซ่อนกล้อง แต่ให้เป็น “ที่ปลอดภัย” ที่เขาจะเลือกกลับมา แม้โลกจะโหดร้ายแค่ไหน
ถ้าถูกใจ แชร์วนไปจ้า!
#เลยาชาแนลชะนีมีช่อง #ค้นกระเป๋าแต่ใจอย่าค้นรุนแรง #ครูต้องคูลไม่ใช่จู่โจม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น